• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

5 วิธีแก้นิสัยโมโหง่ายให้เปลี่ยนเป็นคนใจเย็นขึ้น

Started by Chigaru, March 18, 2023, 01:09:37 AM

Previous topic - Next topic

Chigaru


5 วิธีแก้นิสัยคนขีขุ่นเคืองให้แปลงเป็นคนใจเย็น(กว่าเดิม)

1. ระงับคำพูดและพฤติกรรมในยามที่โกรธเป็นถ้าเกิดรู้สึกว่า อารมณ์กำลังพลุ่งพล่าน


ให้สงบนิ่งไว้ จดจำไว้เสมอว่า...ความนึกคิดใดๆคำกล่าวอะไรก็แล้วแต่ความประพฤติใดๆก็ตามถ้าหากมีขึ้นในยามโก รธ


มักเป็นไปในทางทำลายรุ นแร งอาจหนำใจเดี๋ยวเดียว แต่ว่าสุดท้ายจะไม่เป็นผลดี

ก ฏเหล็กพื้นฐานที่จำต้องทำให้ได้เป็น...พวกเราจะไม่พูดหรือทำอะไรเด็ดข าดในย ามที่โกร ธ

คอยให้ใจเย็นก่อน หายโก รธก่อนและก็หลังจากนั้นจึงค่อยว่ากัน

2. ตรึกตรองโท ษของความโก รธแล้วก็คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากความกรุณาคือให้ย้อนคิดถึงชีวิตก่อนหน้าที่ผ่านมา

ว่าเราเสียอะไรไปบ้างเพราะเหตุว่าความโก รธทำผู้ใดเสียใจกี่คน ทำลายโอกาสไปเท่าใด

ทำลายความเชื่อมโยงไปอย่างไรสิ่งพวกนี้ให้น้อมมาคิดเสมอๆคิดซ้ำให้มากมายๆ


พินิจพิเคราะห์จนปัญญาเห็นด้วย หมดคำกล่าวอ้างอย ากปรับปรุงตัวเองด้วยความสมัครใจ


เนื่องจากมั่นอกมั่นใจแล้วว่า ความโกรธไม่ใช่ของดีแต่เป็นสิ่งที่ทำลายความสบายแล้วก็ความเจริญ

ทั้งของเรา คนที่เรารัก และก็ผู้ที่รักพวกเราไม่มีใครได้อะไรเลยจากความโก รธ

ธรรมชาติของมนุษย์พวกเราเกลียดให้คนไหนกันมาสั่งเท่าที่เรายังไม่ต กผลึ กยอมแพ้ด้วยตัวเองว่า

ถึงเวลาแล้วที่เราจำต้องแปลงตัวเองใครจะกล่าวคนไหนจะบอกจะสอนก็ย ากยิ่งที่คนเราจะเปลี่ยน

แบบนี้แล้ว เราก็เลยต้องปฏิบัติตัวเป็นคุณครูของตัวเองเพื่ออบรมตัวเองให้มองเห็นพิ ษภั ยของความโก รธรังเกียจอารมณ์ทำลาย

3. สร้างความสำราญนิดๆหน่อยๆให้ผู้อื่นจนกระทั่งเป็นนิสัยคือให้รู้จักชื่นชอบ ให้กำลังใจผู้คนเป็นประจำ

เมื่อทำให้เขามีความสุขแล้วให้เรารู้จักเอาอกเอาใจไปสัมผัสความรู้สึกนั้นเรียกว่า ให้ใจพวกเราประทับใจ

กับความรู้สึกที่เย็นใจอยู่เป็นประจำเราบางทีก็อาจจะทดลองเทียบกันมองก็ได้ว่าอารมณ์รูปแบบนี้ กับอารมณ์ในยามที่โก รธ

แบบไหนดียิ่งกว่ากันถ้าหัวใจเราคุ้นกับความรู้สึกที่ดีมันจะเบาๆเบื่อหน่ายความโมโหเกลียดชังชิ งชั งไปทีละน้อยๆ

ในข้อนี้เป็นการแ ก้กิเล สด้วยกุศ ลฝ่ายตรงข้ามถ้าเกิดความขุ่นเคืองเป็นด้านมืดในที่นี้ด้านสว่างก็คือความปรานี

เราบางทีอาจเฉดหัวไล่ความมืดมนมิได้แต่หากพวกเราจุ ดไ ฟได้ ความมืดจะหายไปรวมทั้งความสว่างจะเข้ามาแทนที่

ภาษาธรรมเรียกสิ่งนี้ว่า การทวนกระแสกิเล สเป็นใช้ธรรมคู่ตรงข้ามมาจัดการกิเล สให้บางเบา


4. ฝึกฝนมองดูความรู้สึกด้วยใจที่เป็นกลางในข้อนี้คือธรรมะชั้นลึก เป็นการก้าวหน้าสติ


คือพวกเราฝึกฝนดูอารมณ์ต่างๆของเราด้วยความจริงใจที่เป็นกลางเหมือนความนึกคิดความรู้สึกนั้นไม่ใช่เรา

ชอบใจก็ไม่เข้าไป เศร้าใจก็ไม่เข้าไปคนสรรเสริญก็วางไว้ คนนินทาก็วางไว้ฝึกฝนให้มีความเห็นว่าอารมณ์ความนึกคิดกลุ่มนี้

หากหัวใจเราเข้าไปยึดในที่สุดก็ไม่ดีทั้งนั้นเนื่องจากยึดข้างหนึ่ง อีกข้างก็จะตามมาด้วยราวกับในกำเหรียญไว้ภายในมือ

ก็จะได้ทั้งหัวอีกทั้งก้อยมาในคราวเดียวรักสุขก็จะได้ทุ กข์เป็นของแถมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในข้อนี้ถ้าหากฝึกเป็นประจำเว้นแต่ความขุ่นเคืองแล้วยังช่วยกำจัดลดทอนพลังความนึกคิดด้านล บได้ทั้งผอง

ดังเช่นความซึมเศร้าความเดียวดายความเบื่อหน่ายต่างๆจิตใจจะเป็นกลาง หนักแน่นมากยิ่งขึ้น

5. รู้จักอยู่ รู้จักจุดอ่อนจุดแข็ งของตนเองเป็นให้รู้จักดูตนเองถ้าเกิดพวกเราโก รธคนไหนกันเป็นประจำ

เวลาอยู่ใกล้ก็ให้ระวังบางโอกาส กับคนบางคนให้สังเกตดูเถอะว่า เราก็โกรธเขา

โกรธคนๆนี้ กระทั่งแปลงเป็นความคุ้นเคยเพียงแค่เห็นหน้ายังไม่ทันทำอะไร

หัวใจก็วูบๆไหวๆความหงุดหงิดก็เริ่มเข้ามาตรงนี้ควรหลบหลีกการประจันหน้าดังนี้ในกรณีที่เลี่ยงมิได้จริงๆ

ดังเช่นว่าเป็นคนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัว เป็นผัวภรรย าเป็นลูก เป็นเจ้านาย ลูกน้อง เพื่อนเกลอ อย่างงี้ก็ให้ยกเอาสิ่งที่เขาทำขั ดหัวใจเรา

มาเป็นสิ่งที่ใช้ในการฝึกจิตใจของพวกเรา ฝึกอภั ยดีมากกว่าปล่อยใจของเราให้ต กต่ำไป

เพราะว่ามัวแต่วิวาทกับเขาให้เอาความขัดแย้ งนั้นมาบ่มเพาะความรัก เมตตาขอให้พวกเรารับรู้ไว้ว่า ส่วนใหญ่แล้ว

ถ้าไม่ตรงกันแต่มีความจำเป็นจำต้องอยู่ร่วมกันตัดกันไม่ข าด แย กกันไม่ข าดสิ่งนี้มักเกิดจากมีบุญก ร ร ม

สโมสรด้วยกันมานานกลายเป็นแรงก ร ร มผูกพัน ผู กรั้งไม่ให้ไปไหนอย่างนี้ยิ่งจำต้องรู้จักระวัง หยุด สำรวม

อย่าไปทำกรรมให้กันและกันมากขึ้นการเป็นคนขี้โมโห ไม่มีอะไรดีมีแต่ว่าเสียคุณประโยชน์ เสียอีกทั้งสุขภาพทางร่างกายหัวใจ

ทำลายความข้องเกี่ยว ทำลายหน้าที่การงานทำลายบารมีในตนแปลงเป็นคนที่สร้างความทุ กข์ให้คนอื่น

รวมทั้งตัวเองก็ใส่ความสุขได้ย าก5 ข้อนี้ ฝึกหัดแรกๆจะทำได้ย ากแม้กระนั้นขอให้ทรหดอดทนฝึกหัดทำทุกข้ออย่างสม่ำเสมอ

สำคัญเป็นควรมีแรงใจ แล้วก็วินัยฝึกหัดแรกๆอย่าปล่อยใจตามความเคยชินของตัวเองสุดท้ายแล้วพวกเราควรมีความเข้าใจว่า

การลดพยายามอนัตตาของตนเองลดความโมโหชังของตนเองเราไม่ได้ทำเพื่อคนใดกันแต่ว่าเราทำเพื่อยกระดับจิตใจของตนเอง

เพื่อความสำราญของเราเองจริงอยู่สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทำกันได้ง่ายๆ แต่ถ้าเกิดทำเป็นวันหนึ่ง ทราบจะสัมผัสถึงความเบาใจของชีวิต

มีชีวิตที่ค่อยขึ้น สบายขึ้นถึงวันนั้นเราจะยินดี แล้วก็รู้สึกขอบพระคุณตัวเองรู้สึกพึงใจว่า พวกเราสามารถข้ามผ่านตัวตนเก่าๆ

ไปสู่ตัวตนใหม่ที่ดีกว่าเดิมแล้วก็สิ่งนี้เป็นการมอบความรักและความปรานีให้ตัวเองอย่างแท้จริง...

แก้นิสัย
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12886/