การออกแบบบ้านให้ลดการใช้พลังงาน

[Ailie662]

1. ปลูกต้นไม้ทรงสูงเพื่อบังแดด โดยที่จะต้องให้มีกระแสลมเย็นพัด ผ่านใต้พุ่มใบในความเร็วที่พอเหมาะ เพื่อลดอุณภูเขามิภายนอกใกล้บริเวณบ้านและก็ คุ้มครองปกป้องลมพัดผ่านเข้าตัวบ้านมากจนเกินไป โดยควรจะปลูกต้นไม้ในทิศตะวันออกและ ทิศตะวันตก



2. ควรเลือกประเภทต้นไม้ที่สมควรสำหรับใช้เป็นร่มเงาที่มีอยู่ตามท้องถิ่นอาทิเช่น ต้นปีบ ต้นอินทนิล ต้นสัตบัน ต้นสุพรรณิกา ฯลฯ เพื่อลดการใช้ปุ๋ย ยาฆ่า แมลงการรักษา เนื่องจากว่าต้นไม้กลุ่มนี้มีความคุ้นเคยกับภาวะภูมิประเทศ รวมทั้งลักษณะอากาศในประเทศไทยอยู่แล้ว

3. นำหลักภูเขามิสถาปัตย์มาใช้ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมรอบๆรอบๆบ้านให้ เย็นสบาย โดยการปลูกพืชคลุมดิน ปลูกต้นหญ้า จัดแต่งสวน จัดทำน้ำตกเลียนแบบ เป็นต้น

4. กลบดินรอบๆรอบบ้านให้สูง เพื่อพื้นและก็ผนังนิดหน่อยต่ำยิ่งกว่าดินทำให้สามารถนำความเย็นจากดินมาใช้ แล้วก็ปลูกไม้พุ่มรอบๆผนังบ้าน



5. ในเรื่องที่มีพื้นที่จำกัด บางครั้งอาจจะปลูกต้นไม้ดัด หรือไม้เลื้อยตามระเบียงหรือรั้ว เพื่อลดลมร้อนพัดผ่านเข้าตัวบ้าน รวมทั้งลดความแรงของแสงอาทิตย์ที่ ส่องผิวอาคาร



6. ทำรางน้ำแล้วก็ท่อที่มีไว้ระบายน้ำจากหลังคา หรือส่วนต่างๆภายในบ้านให้ สมควร เพื่อคุ้มครองความชุ่มชื้นซึมเข้าไปในบ้าน หรือบางทีอาจจะทำท่อสำหรับเพื่อระบายน้ำที่ได้จาก แนวทางซักล้างไปใช้รดน้ำต้นไม้

7. หากอยากได้ทำที่จอดรถยนต์ ควรทำที่หยุดรถยนต์พร้อมหลังคาในด้านทิศตะวันออก หรือทิศตะวันตก เพื่อเป็นการช่วยลดความร้อนผ่านเข้ามาในตัวบ้านโดยตรง



8. บุฉนวนกันความร้อนที่หลังคาและฝาผนัง โดยความดกของฉนวนที่ใช้จำต้อง ขึ้นกับภาระทำความเย็น แต่ส่วนใหญ่ใช้ฉนวนที่มีความดกโดยประมาณ 2-3 นิ้ว (50-75 มิลลิเมตร) ฉนวนสำหรับหลังคาและฝาผนังมีหลายอย่าง เป็นต้นว่า ฉนวนใย แก้ว ฉนวนเยื่อกระดาษ ฉนวนเซรามิกลงสีฝาผนังด้านนอกของบ้านเป็นสีอ่อน ใช้อุปกรณ์ที่มีผิวมันแล้วก็กันความชื้น

9. ใช้กระเบื้องหลังคาสีอ่อน เพื่อสะท้อนความร้อนได้ดี

10. สำหรับฝาผนังด้านที่มีระเบียงยื่น ควรจะเลือกใช้ประตูหรือหน้าต่างชนิดบานพลิกที่สามารถควบคุมปริมาณลมได้ดีมากว่าการใช้ประตูหรือหน้าต่างประเภทบานเลื่อน

11.จัดตั้งหน้าต่างกระจกเฉพาะที่จำเป็นจะต้องแค่นั้น โดยให้พอเพียงสำหรับการรับแสงสว่างจากธรรมชาติ แล้วก็ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งด้านทิศตะวันออกแล้วก็ตะวันตก

12. ทำกันสาดให้กับหน้าต่างกระจก โดยกันสาดแนวขนานเหมาะสมกับหน้าต่าง ที่อยู่ทางทิศเหนือรวมทั้งทิศใต้ ด้วยเหตุว่าสามารถบังแสงตะวันในตอนเที่ยงตรงและตอน บ่าย ส่วนกันสาดแนวดิ่งเหมาะสมกับหน้าต่างที่อยู่ทิศตะวันออกแล้วก็ทิศตะวันตก



13. จัดตั้งผ้าม่านหรือม่านรอบๆหน้าต่างกระจก เพื่อป้องกันความร้อนจากแสงสว่าง อาทิตย์เข้าด้านในตัวบ้าน ส่วนการต่อว่าดฟิล์มถ่ายรูปกรองแสงสว่างที่กระจกหน้าต่างนั้น แม้จะคุ้มครองป้องกัน ความร้อนจากแสงตะวันได้ดีมากยิ่งกว่า แต่ว่าค่าใช้สอยสูงกว่าจึงไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบ

14. สำหรับห้องนอนหรือห้องที่ต้องการปรับอากาศที่ตั้งอยู่รอบๆชั้นสองเหนือ รอบๆที่จอดรถหรือระเบียง ควรจะมีการทาหรือพ่นฉนวนที่ฝ้าเพดานของที่จอดรถ หรือระเบียงนั้นๆเพื่อคุ้มครองปกป้องการนำความร้อนจากภายนอกผ่านใต้พื้นห้องเข้า สู่ตัวห้อง

15. จัดตั้งพัดลมสำหรับระบายอากาศบนหลังคา เพื่อดูดอากาศร้อนใต้หลังคาออกไป ภายนอก

16. ทำระเบียงยื่นพร้อมติดกันสาดในทิศตะวันออกและทิศตะวันตก สำหรับใช้ เป็นที่นั่งรับประทานอาหารว่างหรือใช้ประกอบอาหารนอกบ้านแล้วยังช่วยลดความร้อนเข้ามา ในบ้านอีกด้วย

17. ทิศเหนืออยรั่วด้วยซีเมนต์หรือซิลิโคน (Silicone) ที่ช่องติดตั้งโคม ช่องติด ตั้งพัดลมเพดาน ช่องที่เตรียมไว้สำหรับเดินท่อน้ำ เป็นต้น เพื่อปกป้องความ ร้อนจากด้านนอกผ่านเข้าช่องเพดาน

18. อุดรอยรั่วสะกดรอยต่อ ระหว่างฝาผนังขอบประตู หน้าต่าง เพื่อปกป้องความ ร้อนแล้วก็ความชุ่มชื้นจากภายนอกผ่านเข้าไปในบ้าน ในเรื่องที่ห้องนั้นเป็นห้อง ปรับอากาศ

19. จัดวางตู้และชั้นที่เอาไว้วางสิ่งของให้สมควร ไม่บังลม ไม่ขวางการระบาย อากาศ และไม่บังแสง

20. จัดวางโต๊ะเขียนหนังสือให้หันไปในฝาผนังด้านที่รับแสงธรรมชาติได้

21. หมั่นดูแลรักษาชำระล้าง ประพรม ผ้าม่าน โซฟา ไม่ให้เปียกชื้น เพื่อลดภาระสร้างความเย็นเหตุเพราะความร้อนแฝง



22. แบ่งห้องใช้สอยโดยคิดถึงการประหยัดพลังงาน โดยจัดห้องที่ใช้ เวลาเช้าอยู่ในทิศตะวันออก ส่วนห้องที่ใช้สอยเกือบจะตลอดวันให้อยู่ทิศเหนือ ด้วยเหตุว่าจะเย็นสบายที่สุด ได้แก่ ห้องรับแขกอยู่ในทิศเหนือ เป็นต้น

23. ควรจัดตั้งคอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศในที่ร่ม หรือใต้ต้นไม้ แล้วก็จะต้องไม่มีสิ่งกีดขวางทางลมเข้าและก็ออกจากคอนเดนเซอร์ ในด้านด้าน เหนือของบ้านเป็นด้านที่เหมาะสมที่จะจัดตั้งคอนเดนเซอร์มากที่สุด แต่ว่าถ้าหากไม่ สามารถติดตั้งในด้านทิศเหนือก็สามารถติดทางด้านทิศใต้ที่มีกันสาดแทนได้

24. ควรจะติดตั้งคอนเดนเซอร์ในที่ๆสามารถดูแลทะนุบำรุงสะดวก แล้วก็ใน ที่ๆไม่ส่งเสียงรบกวนเข้ามาภายในห้อง



25. ควรจะติดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้ในการควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) ภายในห้องปรับอากาศ ให้สมควร คือ ไม่ควรได้รับแสงอาทิตย์โดยตรง เนื่องจากจะมีผลให้เทอร์โมสตัท อ่านค่าผิดพลาด รวมทั้งควรติดตั้งในรอบๆที่มีความสามารถที่จะอ่านค่าอุณหภูมิได้ง่ายและก็ รวมทั้งสะดวกต่อการปรับตั้งค่าอุณหภูมิตามอยากได้

26. ควรจะจัดตั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ในรอบๆที่ไม่ปรับอากาศและเปิดโล่ง ตัวอย่างเช่น ที่จอดรถ ระเบียงนอกบ้าน เพื่อระบายความร้อนและลดความชื้นที่ปลด ปล่อยมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์กลุ่มนี้ แต่ถ้าจำต้องติดตั้งในห้องปิด น่าจะต้องติด ตั้งพัดลมที่มีไว้ระบายอากาศ เพื่อปกป้องการสั่งสมความร้อนและความชื้นภายในห้อง



27. พินิจทำห้องครัวให้อยู่นอกตัวบ้าน แม้กระนั้นหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ห้องครัวที่อยู่ ภายในตัวบ้านควรจะมีการระบายความร้อนที่ดี เนื่องจากว่าครัวมักมี เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายแบบ อย่างเช่น เตาอบ เตาหุงหาอาหาร กาที่มีไว้ต้มน้ำร้อน ตู้เย็น ซึ่งเป็น แหล่งปล่อยความร้อนที่สำคัญ



28. ติดตั้งเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันใบริเวณสำนักงานหุงหาอาหารรวมทั้งอากาศ ที่ใช้กับเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันนี้ ควรมาจากข้างนอกบ้านไม่สมควรใช้อากาศ เย็นจากเครื่องปรับอากาศโดยตรง

29.เลือกใช้เครื่องไม้เครื่องมือแล้วก็เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์สมรรถนะสูง นอกเหนือจากที่จะออม พลังงานจากตัวมันเองแล้วยังลดความร้อนที่ถูกปลดปล่อยออกมาในเวลาใช้งาน อีกด้วย อย่างเช่น ใช้ตู้เย็นคุณภาพสูง ใช้หลอดไฟคุณภาพสูง ฯลฯ

[Hanako5]

ดันๆ

[Chigaru]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Cindy700]

 ดันกระทู้

[Cindy700]

ดันๆ

[Prichas]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Cindy700]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Cindy700]

 ดันกระทู้

[kaidee20]

 ดันกระทู้

[Jessicas]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Fern751]

 ดันกระทู้

[Fern751]

ดันๆ

[kaidee20]

ดันๆ

[Panitsupa]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Fern751]

 ดันกระทู้